เทอร์โบชาร์จเจอร์(Turbocharger)

หลายคนคงรู้จักเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ในเรื่องของอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลือง ซึ่งนอกจากเครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไปแล้ว ระบบอัดอากาศคือหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับรถได้ และระบบอัดอากาศ จะมี 2 แบบหลักๆ คือ เทอร์โบชาร์จเจอร์(Turbocharger) และ ซุปเปอร์ชาร์จเจอร์(Supercharger) แม้ว่าอุปกรณ์ 2 อย่างนี้จะมีส่วนประกอบที่ต่างกัน แต่มีหน้าที่หลักๆ คือ การเพิ่มปริมาณอากาศเข้าไปที่ห้องเผาไหม้โดยแรงดันที่สูงกว่าแรงดันบรรยากาศ
ที่มา https://www.bloggang.com/data/f/figther/picture/1490617067.jpg


ทำไมถึงต้องดันอากาศเข้ากระบอกสูบมากๆ?                                                                                      
เพราะข้อจำกัดในเรื่องของสมรรถนะของเครื่องยนต์นั้นมาจากอากาศที่จะเข้าสู่ห้องเผาไหม้นั้นไม่เพียงพอ อากาศที่ดูดเข้าห้องเผาไหม้นั้น ประมาณ 75-85 % เมื่อเทียบกับปริมาณของอากาศทางทฤษฎี ซึ่งอัตราส่วนผสมระหว่างอากาศและเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์เบนซินจะเป็น 14:1 โดยน้ำหนัก นั่นหมายความว่า จะมีอากาศ 14 ส่วน เชื้อเพลิง1 ส่วน มาผสมกัน จึงจะเรียกว่า การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 ปัจจุบันมีการนำเอาอุปกรณ์อัดอากาศมาใช้กับเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยออกแบบเครื่องยนต์ให้มีความจุน้อยลง แต่ใช้อุปกรณ์อัดอากาศนี้มาทำให้สมรรถนะเครื่องยนต์ แต่วันนี้พวกเราจะพามารู้จักกับ Turbocharger กัน ว่ามันทำหน้าที่อะไร และมีหลักการทำงานอย่างไร 
ที่มา http://gmcarmagazine.com/gmcar/userfiles/images/Turbo-Car-03.jpg


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลักการทำงานทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์( Turbocharger )

อาการ “รอรอบ” คืออะไร?

VN TURBO